2006-10-25
**โดยหลักการสิ่งที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์สามารถผลิตซ้ำ(Reproduction) ได้โดยมนุษย์
การผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction) มีวิวัฒนาการโดยเริ่มจากสมัยกรีก เช่นการหล่อและการประทับ(founding and stamping) โดยใช้ในการผลิต รูปปั้นบรอนซ์ ดินเผา และเหรียญ แต่การผลิตซ้ำนี้ยังไม่ครอบคลุมไปถึงศิลปะแขนงอื่นๆซึ่งล้วนแต่มีหนึ่งเดียวและไม่สามารถผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักรได้
การแกะไม้(woodcut)เป็นงานศิลปะชนิดแรกที่เป็นการผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction) จากนั้นมาก็มีการพัฒนาการทางด้านการพิมพ์ จากเทคนิค engraving etching มาถึง lithography จากนั้นการพิมพ์ก็ถูกแทนที่ด้วย ภาพถ่าย(photography)
**ภาพถ่าย(photography)ทำให้มือของมนุษย์ถูกปลดออกจากหน้าที่ในการสร้างศิลปะ-ศิลปินมองผ่านเลนส์เพราะตามองได้เร็วกว่าวาดด้วยมือ-กระบวนการผลิตซ้ำจึงมีความรวดเร็วขึ้นอย่างมหาศาล จากภาพถ่ายพัฒนาการกลายเป็นภาพยนต์(film)ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลกระทบกระเทือนกับศิลปะในรูปแบบเดิม
วิวัฒนาการของการผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction) มีผลต่อความคิดในเรื่อง The original ซึ่งเป็นต้นรากของความคิดในเรื่อง authenticity
การผลิตซ้ำด้วยมือ ผลงานที่ได้มักถูกเรียกว่าเป็นของปลอมแปลง ซึ่งไม่สามารถเทียบกับ The original ได้
แต่การผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction)นั้นสามารถ
-นำบางด้านของ The original ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าให้ปรากฎแก่สายตา
-อัดสำเนา(copy) เปลี่ยนบริบทของมันให้ห่างไกลจาก The original
แต่การผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction)นั้นก็ทำให้เราสูญเสีย Aura หรือความขลังของงานศิลปะชิ้นนั้นๆ
การผลิตซ้ำนำเอาวัตถุที่ถูกผลิตซ้ำออกมาจากอาณาเขตของจารีตประเพณี การผลิตซ้ำนำเอาความมากมายด้านปริมาณของสำเนามาทดแทนความเป็น unique existence ของงานศิลปะ แต่ในขณะเดียวกันการผลิตซ้ำนั้นก็ส่งผลให้ ผู้ดูและผู้ฟังเข้าถึงผลงานเหล่านั้นในสถานการณ์ของตนเอง
ความเป็นหนึ่งเดียวของงานศิลปะไม่อาจแยกออกจากการดำรงอยู่ของมันในโครงสร้างของจารีตประเพณี
แต่แรกนั้นงานศิลปะในแง่ที่เกี่ยวพันกับสิ่งที่เรียกว่า Aura นั้นแยกไม่ออกจากหน้าที่ของมันในพิธีกรรม
แต่การผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction)ได้ไถ่ถอน ดึงเอางานศิลปะออกจากบทบาทแบบกาฝากซึ่งขึ้นต่อพิธีกรรม และผลแห่งการผลิตซ้ำงานศิลปะได้กลายมาเป็นงานศิลปะที่ถูกออกแบบมาเพื่อการผลิตซ้ำโดยเฉพาะ ทำให้ authenticity หมดความหมาย
คุณค่าของงานศิลปะถูกแบ่งออกเป็นสองคือ ทางcult และ exhibition valueการผลิตซ้ำด้วยเครื่องจักร(mechanical Reproduction) จึงเปิดให้ศิลปะแสดงออกทางด้าน exhibition value
สรุปและจับใจความจาก
The Work of Art in the Age of Mechanical Reproduction (1935)--Walter Benjamin
+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:++:+:+:+:+:+:+
Book bought:
-
Books read:
-ExperimentAAtion : AA Projects Review 05/06
-S, M, L, XL--OMA and Rem Koolhaas
-เมด อิน U.S.A.--สุจิตต์ วงษ์เทศ
Wednesday, October 25, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
ตอนนี้ทำรายงานเรื่องนี้อยู่ค่ะ อยากถามว่าในความคิดคุณ..มันสะท้อนให้เห็นถึงอะไรในสังคมเรามั้ยคะ แค่ความเห็นส่วนตัวค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
มน
mon_c5555@yahoo.com
Post a Comment