Saturday, September 16, 2006

ความหมายของสิ่งนั้น

2006-09-16

ในหนังเรื่อง Almost Famous ของผู้กำกับ คาเมรอน โครว์ มีฉากหนึ่ง ที่พี่สาวของพระเอกหนีออกจากบ้าน เธอได้ทิ้งแผ่นเสียงแผ่นหนึ่งไว้ให้น้องชาย มันเป็นแผ่นเสียงของวง Simon & Garfunkel อัลบั้ม Bookends พร้อมกับทิ้งโน้ตไว้ว่า "เธอต้องเติบโต" แล้วเสียงเพลงประกอบเพลงนั้น--America ก็ดังขึ้นมา:-

"Let us be lovers, we'll marry our fortunes together
I've got some real estate here in my bag"
So we bought a pack of cigarettes and Mrs. Wagner pies
And walked off to look for America


ไม่รู้ว่ามีส่ิงใดอยู่ในความคิดของ ฟริตจ๊อฟ คาปร้า ในช่วงเวลานั้น(เช่นกัน) ที่ทำให้นักฟิสิกส์ แห่งมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ ทิ้งงานในห้องวิจัย สะพายเป้ ระเหเร่ร่อนเดินทาง คงมีคำถามอะไรบางอย่างกำลังเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในหัวของเขา

มันอาจจะเป็นคำถามที่ทำให้เขาตัดสินใจ walked off to look for ...(อะไรสักอย่าง)

คงมีอะไรซักอย่างอยู่ที่ท้ายรถกระบะที่เขานั่ง อะไรซักอย่าง ในวงสนทนากลางสนามหญ้าของคนหนุ่มสาวที่อยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัย อะไรซักอย่างหนึ่งในแสงแดดยามบ่ายในขณะที่เขากำลังนอนเอกเขนกดูก้อนเมฆบนฟ้า อะไรซักอย่างบนคลื่นในทะเล อะไรซักอย่างในวงปุ๊นกัญชาของพวกฮิปปี้ อะไรซักอย่างในหนังสือ on the Road ของ Jack Kerouac ที่เขาอ่านในถุงนอนกลางป่าเขา ภายใต้แสงจันทร์ดวงนั้น

เขาใช้เวลากว่าสิบกว่าปีในการค้นหาคำตอบ ด้วยการเดินทางออกไปสนทนาพูดคุยกับคนอื่นๆ ในหลากหลายอาชีพ หลากหลายความเชื่อ หลากหลายเชื้อชาติ และหลากหลายศาสนา

เขาคุยกับมนุษย์ได้หมด--ไม่ว่ามนุษย์คนนั้นจะคิดเหมือนหรือคิดต่างจากเขาก็ตาม(บางเวลาที่เขาเบื่อที่จะคุยกับมนุษย์ด้วยกัน เขาก็คุยกับต้นไม้ แสงแดด สายลม หรือไม่ก็คลื่นในทะเล)

หนังสืออย่าง The Tao of Physics และ The Turning Point ก็คือดอกผลของคำถามเหล่านั้น

(โชคยังคงเข้าข้างคนอ่านอย่างเราๆ ที่ คาปร้า เป็นแค่นักฟิสิกส์ ที่ปราดเปรื่อง และเปิดกว้าง ไม่ได้เป็นนักธุรกิจหรือนักการตลาดที่ฉลาดล้ำ เพราะไม่ว่าจะมองยังไงการใช้เวลาสิบกว่าปีเพื่อเขียนหนังสือสองเล่ม คิดคำนวณกันจนเครื่องคิดเลขพัง ก็ไม่เห็นจะคุ้มค่าต่อการลงทุนตรงไหน :P)

สำหรับคนที่เคยอ่านหนังสือที่เราพูดถึงในย่อหน้าที่แล้วทั้งสองเล่มของคาปร้าแล้ว ถ้ายังไม่เคยอ่านเล่มที่มีชื่อว่า Uncommon Wisdom:Conversations with Remarkable people บอกได้คำเดียวว่า "ห้ามพลาด!"

เพราะมันเป็นหนังสือที่เป็นเสมือนบันทึกเบื้องหลังการทำงานเขียนหนังสือทั้งสองเล่มข้างต้น ซึ่งสามารถสะท้อนมุมมองที่น่ารักของผู้ชายคนนี้ รวมถึงทฤษฎีในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่คาปร้าคิดขึ้นมา ซึ่งดูยังไงมันก็ไม่เป็นวิทยาศาสตร์เอาเสียเลย แต่มันก็ทำให้คุณอมยิ้มได้

ซึ่งทำได้แค่นี้ก็อาจจะพอเพียงแล้วในการเกิดเป็นมนุษย์สักหนหนึ่ง


(ยังไม่จบ ^_^)

+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:++:+:+:+:+:+:+

Simon & Garfunkel--Bookends(1968)
+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:++:+:+:+:+:+:+


SuperDutch New Architecture in the Netherlands
Bart Lootsma
ISBN: 1-56898-239-9

Superdutch showcases the works of the most exciting Dutch designers on the current architecture scene. The built environment of the Netherlands is comparatively very young; as stated in the introduction, over 75 percent of the countrys buildings came after the Second World War. The government and planning authorities have been known to adopt sensible planning philosophies, while individual pioneers such as Rem Koolhaas helped pave the way for the modern era of design that the country enjoys today.Following the written introduction to modern architecture in the Netherlands, the book displays selected works of twelve contemporary local architects, including housing, public spaces, art installations and concept designs.

+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:++:+:+:+:+:+:+
Book bought:
-
Books read:
-โกธ: คดีตัดข้อมือ(GOTH: Wrist Cut Jiken)--Otsuichi แปลโดย นะนะโกะ (ยืม peach มาอ่าน)
-Superdutch: New Architecture in The Netherlands--Bart Lootsma