Saturday, March 10, 2007

1ทีม+1ทีม=1ทีม

2007-03-10

บริษัทที่ผมทำงานอยู่ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีบริษัทในเครืออยู่ 5 บริษัท
สามบริษัทเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรม และบริหารงานก่อสร้าง-ซึ่งไม่มีทีมฟุตบอล (ซีเรียสๆ)
ส่วนสองบริษัท เป็นบริษัท ออกแบบสถาปัตยกรรม(ผมทำงานอยู่บริษัทนี้) และบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน-มีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเอง (ซึ่งก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเน้นสนุกกับความตลกโปกฮา เน้นนันทนาการ) ^_^

ทีมของบริษัทผมกับทีมของอินทีเรียแข่งฟุตบอลกันบ่อยๆ ตามโอกาส(ไม่ถึงกับเรียกได้ว่าเป็นประเพณี--แข่งกันเอาตามสะดวกและความสนุก ตามโอกาสว่างที่พอจะหาได้)
ผมเองก็มีโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลกระชับมิตรกับเขาสักครั้งสองครั้งได้มั้ง-ไม่บ่อย :P

เมื่อต้นอาทิตย์รุ่นน้องคนนึง ซึ่งเป็นคนประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลของบริษัท
เข้ามาบอกผมว่า อยากได้โลโก้ทีมฟุตบอลใหม่ ซึ่งเป็นโลโก้ใหม่ที่รวมทีมฟุตบอลทั้งสองทีม(สถาปัตย์ กับ อินทีเรีย)ไว้ด้วยกัน
เอาไว้ใช้แข่งในแมทช์ใหญ่ที่ไปในนามของบริษัท (โอ้ว-เป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ เรื่องแบบนี้แหละที่เราจริงจังและถนัด เรื่องไร้สาระน่ะ ^_^)
ผมรีบรับปากเพราะเป็นคนมีวิสัยทัศน์ดีในเรื่องแบบนี้ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้มีศักยภาพทีจะพัฒนามันให้กลายเป็นเรื่องสนุกสนาน และบันเทิงเริงรมย์ได้

ขณะที่ผมออกแบบโลโก้ใหม่ อีกฝ่ายหนึ่งก็คัดเลือกแบบเสื้อและสีที่ต้องการ จากนั้นก็ให้ทุกคนในออฟฟิศโหวด ทั้งชายและหญิง(แบบเสื้อต้องถูกใจผู้หญิงด้วย เพราะถึงแม้จะไม่ได้แข่ง แต่เธอก็จะได้เสื้อเอาไว้ใส่เล่นๆ)
จนในที่สุดก็ได้แบบเสื้อมาแบบหนึ่งเป็นเสื้อคอวีสีขาว ตัวเสื้อเป็นเสื้อเรียบๆ ไม่มีลายสีกรมท่า--สวยดี

เรื่องเสื้อเป็นอันจบ-ที่เหลือคือโลโก้ ซึ่งเป็นหน้าที่ผม :P

ไอเดียแรกเลยที่คิดได้ก็คือ
1. น่ามีตัวเลข 103 อยู่ในโลโก้ด้วย
2. น่าจะเป็นรูปสัตว์อะไรสักอย่าง (เห็นพวกทีมฟุตบอลชอบใช้สัตว์เป็นเป็นโลโก้

จากไอเดียนี้ก็ได้แบบอย่างที่เห็น


ทางเลือกที่หนึ่ง


ความคิดเห็นของผม : ผมชอบแบบนี้นะ เพราะมันดูคลุมเคลือดี เหมือนสัตว์หลายๆ อย่าง อารมณ์ที่ออกมาทางสีหน้าก็มีความขัดแย้งในตัวเองสูง ดูหวาดระแวง เนิร์ดๆ นิดๆ ขี้เล่น และดูเหมือนเป็นสัตว์ที่นอนไม่หลับ แล้วก็สอดคล้องกับไอเดียแรกที่คิดได้ เพราะมีตัวเลข 103 แล้วก็มี คำว่า D+IA ซึ่งเป็นชื่อย่อของทั้งสองบริษัท ที่ผมชอบที่สุดก็คือมันดูน่ารัก และไม่จริงจังดี ^_^

ควาคิดเห็นของคนอื่น : มันไม่น่าเกรงขาม ไม่เท่ รุ่นพี่คนนึงยกตัวอย่าง ดูตัวอย่างทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียง หงษ์แดง ปีศาจแดง อินทรีหล็ก หรือแม้ก็ทั้งทีมในเอเชียทีมชาติญี่ปุ่นก็เป็นรูปเหยี่ยว ดิเห็นปะแต่ละทีมมันดูเท่ทั้งนั้น โลโก้นี้มันดูน่ารักและประหลาดจนเกินไป อยากได้แบบเท่ๆ แล้วก็ดูแบดบอยหน่อยๆ-หลายคนออกความเห็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่จะไม่ชอบกันทุกคน รุ่นน้องบางคนที่เป็นผู้หญิงก็บอกว่า-ชอบๆ น่ารักๆ ดี

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เลยเกิดแนวทางที่สองขึ้นมา


ทางเลือกที่สอง


ความคิดเห็นของผม : ผมพยายามปรับมันให้ดูแบดบอยขึ้น ให้มันดูแล้วชั่วๆ นิดๆ โดยยังคงไอเดียเรื่องตัวเลข 103 เอาไว้อยู่ จากไม่รู้ว่าเป็นสัตว์อะไร ก็ตอนนี้เริ่มชัดเจนแล้ว-เพราะมันกลายเป็นลิงเผือก(อย่าถามว่าทำไมต้องเป็นลิงเผือกมีความหมายอะไร-เพราะรุ่นพี่ที่ออฟฟิศพยายามถามแล้วคำตอบที่ได้ก็คือ ไม่รู้ ^_^ เฮอๆ) สำหรับตัวผมเองทำเสร็จแล้วก็ไม่ชอบอันนี้เท่าไหร่นัก ชอบแบบแรกมากกว่า :P

ควาคิดเห็นของคนอื่น : อันนี้ไม่ค่อยมีคนโอกับมันเท่าไหร่ มีคนชอบประมาณสองคน-บอกว่าเท่ดี อยากได้อะไที่แบดๆ แบบนี้แหละ แต่ก็มีหลายเสียงเหมือนกันที่บอกว่าแย่กว่าอันแรก ส่วนผู้หญิงไม่มีใครรับอันนี้ได้เลย

ถึงตรงนี้ผมก็เลยลองเปลี่ยนทิศทางในการออกแบบนิดหน่อย
จากเรื่องสัตว์ก็เปลี่ยนเป็นโลโก้ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์เป็นรูปนามธรรม-ก็ได้นิหว่า น่าลองๆ
แต่ก็ยังคงเก็บไอเดียเรื่องต้องมีตัวเลข 103 อยู่บนโลโก้


ทางเลือกที่สาม


ความคิดเห็นของผม : อันนี้ผมใช้รูปทรงที่เป็นเลขาคณิตมาลองจัดองค์ประกอบ รูปนี้เกิดจากตัวเลข 103 ที่สามารถอ่านได้ทุกทิศทาง พอทำเสร็จแล้วอันนี้ผมก็ชอบนะ ไม่เลวๆ (ผมคิด)

ควาคิดเห็นของคนอื่น : เสียงส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าดีกว่าสองอันแรก มันควรจะมาในทิศทางนี่แหละ แต่อยากให้พัฒนาต่อให้อยู่ในแนวทางนี้


เป็นอันจบกระบวนการในการทำงานออกแบบโลโก้ของเรา-ที่เหลือก็ต้องดูกันต่อไปว่าทีมบริษัทอินทิเรียเขาจะโอหรือเปล่า ^_^



ปล--อันนี้เป็นโลโก้ทีมฟุตบอลของบริษัทเรา ที่เราเคยทำให้ เพื่อนและพี่หลายคนแซวว่า
ตั้งแต่ใช้โลโก้นี้มาแข่งยังไม่เคยชนะใครเลยว่ะ :P เพราะโลโก้มันคิขุไป เหมือนโลโก้ทีมบอลของโรงเรียนอนุบาลที่ไหนสักแห่ง แล้วก็หัวเราะกัน (เราว่าไม่เกี่ยวกับโลโก้มั้ง ^_^)
http://wichiter.blogspot.com/2006/11/football-club.html
+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+



ปล2--ลองเอาโลโก้ที่ทำไว้มาพัฒนาต่อเป็นลายผ้าดูก็โอเคนะ ทำเป็นผ้าปูโตีะ หรือผ้าม่านคิดว่าน่าจะดูสวยดี เหมือนกัน ^_^

+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+
Books bought:
-In the Bubble : Designing in a complex world--John Thackara
-The Atlas of Experience--Louise Van Swaaij and Jean Klare

Book read:
-นิตยสารสารคดี-เล่มที่ 264--กุมภาพันธ์ 2550

5 comments:

the aesthetics of loneliness said...

ชอบแบบที่ 2 ที่สุด เพราะ 1.เนิร์ด 2.แบด 3.เป็นสัตว์ 4.มินิมัล สรุปรวมแล้วอบอุ่นลงตัวตกผลึกที่สุด

Anonymous said...

ชอบแบบแรก
ดูลึกลับและขี้เล่นในเวลาเดียวกัน

Anonymous said...

ชอบแบบ 2 แบบแรกมันดูเยอะไป ส่วนอันที่3 ก็ดูซ้ำๆ จนขาดเอกลักษณ์แต่ถ้าเป็นลายผ้าปูโต๊ะเราก็ว่าโอเคเลยนะ
แต่เรากำลังรอดูแบบที่ 4 คิดว่าคนออกแบบน่าจะตกผลึกทางความคิด ส่วนคนวิจารณ์และคนเลือกก็คงจะเริ่มรำคาญแล้วหยุดไปเอง พร้อมกับคำพูดที่ว่า เออ...เอาแบบไหนก็ได้ ให้มันเสร็จออกมาซะทีเถอะ บอลจะแข่งอยู่แล้ว

the aesthetics of loneliness said...

พี่ช่วยออกแบบด้วยอันนึงนะ ลองเปิดเข้าไปดูได้ที่



http://mischiefmayhemsoap.files.wordpress.com/2007/03/image1.jpg



พอใช้ได้ไม๊???

GLASSESGIRL said...

ว่าจะไม่คอมเม้นท์ เพราะบังเอิญมาเจอบล็อกนี้เฉยๆ แต่เห็นรูปของคุณคนข้างบนที่ช่วยออกแบบแล้วขำ ขอฝากรอยไ้ว้หน่อยละกัน 5555

โดยส่วนตัวชอบแบบ 2 กับ 3 ค่ะ แต่ชอบ 3 มากกว่า แอบดู oriental นิดๆง่ะ อันที่ 2 ก็สวย แต่มันทำให้นึกถึงอะไรน้าาาา แบรนด์อะไรไ่ม่รู้ที่เป็นหน้าลิงอะค่ะ (ไม่ใช่ kiplingน่อ) ^^