2006-12-11
ขณะที่ผมกำลังยืนถ่ายรูปร้าน Pai Away อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามพี่เจ้าของร้านก็ตะโกนข้ามฝั่งถนนมา
"น้องๆ ที่ถ่ายรูปอยู่พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ"
"ฉิบหายแล้ว!" ผมคิดในใจเขาห้ามถ่ายรูปหรอว่ะ
ถ้ามองผิวเผินคุณอาจจะคิดว่า นี่คงเป็นร้านในสวนจตุจักร หรือร้านแถวถนนนิมมานเหมินท์ ที่เชียงใหม่--แต่ร้านนี้อยู่ที่เมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
"ไม่มีอะไรหรอกครับ เห็นน้องใช้กล้องโบราณอยู่ก็เลยอยากคุยด้วย" พี่เจ้าของร้านพูดถึงกล้อง Olympus Pen-EES 2 ที่ผมถืออยู่
"อ๋อพอดี มาเที่ยวแล้วกล้องดิจิตอลเสียน่ะครับ กะเอาไว้ว่าจะเอาตัวนี้มา สแนป อะไรเล่นๆ ก็เลยต้องเปลี่ยนใจ"
"อืม พี่ก็มีอยู่ตัวนึง พี่ว่าประหยัดดี ฟิลม์ม้วนนึงถ่ายภาพได้เยอะดีนะ" พี่ร้านถ่ายรูปพูดถึงคุณสมบัติแบบ Half Frame ของมันคือ ฟิลม์ปรกติถึงภาพสามารถถ่ายภาพด้วยกล้องนี้ 2 ภาพ
"รูปสวยดีนะครับ แล้วภาพไหนที่พี่ใช้ Pen-EES ถ่ายครับ" ผมชวนพี่เขาคุยถึงภาพถ่ายของพี่ที่วางโชว์อยู่ในร้าน
"อยู่ตรงโน้นแน่ะ รูปทุ่งนาในปาย พี่ถ่ายเอาไว้นานแล้ว"
"สวยดีพี่ แล้วปรกติพี่ใช้กล้องตัวไหนถ่ายภาพ"
"อ๋อภาพส่วนใหญ่ พี่ใช้กล้อง Leica ถ่ายน่ะ" พี่เขาชี้ที่กล้องตัวนึงที่วางโชว์อยู่ในตู้หน้าร้าน โอ้วไฮโซๆ ผมคิดในใจ
"พี่ผมขอถ่ายรูป บรรยากาศภายในร้านเก็บเอาไว้สักสองสามรูปได้ไหมครับ"
"ตามสบายเลยน้อง พี่ดีใจนะที่ยังมีคนใช้กล้องโบราณอยู่ ยังไม่ยอมปล่อยให้มันพ้นสมัยไป"
ด้านล่างเป็นภาพที่ผมถ่าย
ภาพบรรยากาศภายในร้าน
ผมนึกถึงหนังเรื่อง Coffee and Cigarettes ของ Jim Jarmusch ที่ด้านหลังกล่องดีวีดีเรื่องนี้เขียนเอาไว้ว่า "นี่อาจจะเป็นหนังขาวดำเรื่องสุดท้ายในโลกที่ถ่ายด้วยฟิลม์ เพราะบริษัทโกดัก กำลังจะเลิกผลิตฟิล์มเนกาทีฟขาวดำ (ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นยังไงผมยังไม่ทราบ)
"พี่ชอบถ่ายรูปน่ะน้อง โดยเฉพาะภาพขาวดำพี่รักมันมาก" ประโยคนี้ของพี่--ทำให้ผมตัดสินใจ ไม่ปริปากพูดในสิ่งที่ผมคิดอยู่ในใจ
ทำยังไงได้
เรื่องน่าใจหายแบบนี้
มีหรือที่ผมจะกล้าบอกพี่เขา
ก็คงต้องปล่อยให้
Anyting มัน goes ไปตามทาง--ของมัน
+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+:+
Book bought:
-
Book read:
-
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
4 comments:
ความสนุกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์มมันอยู่ตรงที่ไม่มีอะไรได้ดังใจนี่แหละ ตอนถ่ายก็ยังไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่า
แถมตอนล้างก็ยังตองมารอดูว่าจะเสียหรือไม่เสีย มันมีกระบวนการของการตกผลึก ผลลัพท์ที่ได้มันจึงคุ้มค่ากับการรอคอยเสมอ
คนที่ชอบอะไรเหมือนๆกันเวลาไปเจอกันบังเอิญในสถานที่แปลกๆ นี่เป้นอะไรที่สุดยอดเลยเนอะ
ผมเองก็เคยเจอพี่สาวของเพื่อนที่เคยแอบชอบมาเรียนทำลาซานย่าด้วยกันอย่างบังเอิญแถวสุขุมวิท เป้นช่วงเวลาสที่มีความสุขจริงๆวะ
กำลังสงสัยว่าร้านแบบ "บ้านๆ " ในปาย
ยังมีอยู่ไหม
เคยไปแต่แม่สะเรียง ยังไม่ได้ไป ปายสักที
มัวแต่หมั่นไส้ คนเมืองที่ไปตั้งรกรากที่ปาย ( นิสัยไม่ดี )
ร้านกาแฟเท่ๆ เค้กอร่อยๆ ร้านหนังสือดี ๆ
โอ้วๆ
หยิบๆ จับ Coffee and Cigarettes ที่ร้านเฟม ท่าพระจันทร์หลายทีแล้ว ชอบชื่อของหนัง แต่กลัวดูแล้วหลับ ช่วงนี้อากาศเป็นใจมาก
จริงๆ ก็อยากดูหนัง Jim Jarmusch ดูหนังของ Derek Jarman มากๆ แต่กลัวใจตัวเอง
เคยตั้งข้อสังเกตเองว่าภาพขาว-ดำนี่ดูยังไงก็สวย ด้วยความคลาสสิค ด้วยความโบราณ ด้วยความเท่ของมัน
คิดว่าถ่ายรูปสีให้สวยยากกว่า
ไม่เคยเห็นภาพขาวดำภาพไหนที่ไม่สวยเลยครับ ไม่ว่าจะโอเว่อร์อันเดอร์ เบลอหรือคมชัด มันสวยทั้งนั้น ราวกับว่า ถ้าเป็นภาพถ่ายขาวดำปุ๊บ มันจะสวยอย่างแน่นอนและทันที ทำไมเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้
หมั่นไส้ คนเมืองที่ไปตั้งรกรากที่ปาย ( นิสัยไม่ดี ) <---ตอนที่ผมเที่ยวอยู่ที่ปายบางขณะผมก็คิดอะไรคล้ายๆ อย่างนี้
คิดเหมือนกันว่าร้านเก๋ๆ ทั้งหลายเนี่ยคนเมืองเป็นเจ้าของทั้งนั้น ผมไปปายเป็นครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เมืองปายเป็นยังไง แต่ดูจากร่องรอยที่เหลืออยู่เมื่่อ ก่อนนี้ปายคงเป็นเมืองที่เคยน่ารัก แต่ดูจากโครงสร้างเมืองเนี่ยมันไม่น่าถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ (หรือว่านี่เป็นฝีมือของ Lonely Planet ?) เพราะมันทั้งเล็กแล้วก็ดาษดื่นเหมือนเมืองในชนบทเมืองอื่นๆ (ผมเคยเไปจังหวัดลำพูน สำหรับผมจังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดที่น่ารักมาก) อาจจะเป็นไปได้ว่าปายเป็นเมืองแรกที่เราพบหลังจากเดินทางขึ้นเหนือซึ่งผ่านโค้งมาหลายร้อยโค้ง มันเลยถูกให้ความสำคัญ
ปล--สงสัยเหมือนกันที่เมืองไทยเวลาเป็นเมืองท่องเที่ยวทำไมต้องเป็นอย่างนี้-มีร้านที่มีรูปบ๊อบ มาเลย์ติดอยู่เยอะๆ (ถ้าเป็นรูปบ๊อบ ดีแลนจะไม่ว่าเลย ^_^) มีร้านรับถักผม มีร้านเหล้าริมถนนที่เปิดเพลงเสียงดัง ถ้าพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้วก็เมืองนั้นก็จะมีบรรยากาศคล้าย สีลม(ตอนกลางคืน) ข้าวสารที่กรุงเทพฯ ไนท์บาร์ซาร์ที่เชียงใหม่ แล้วก็ย่านป่าตองที่ภูเก็ต เมืองปายกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางนั้นอย่างช้าๆ ที่ละนิดทีละนิด
Post a Comment